การเปิดร้านกาแฟหรือคาเฟ่ยังคงเป็นเป้าหมายทางธุรกิจที่น่าสนใจ แต่การเริ่มต้นจำเป็นต้องอาศัยการวางแผนที่แม่นยำ ดังนั้น การรู้ตัวเลขงบประมาณว่าเปิดร้านกาแฟใช้งบเท่าไหร่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงงบบานปลาย โดยเฉพาะในส่วนของงานก่อสร้าง รีโนเวท และงานระบบไฟฟ้า/ประปา
บทความนี้ เราจะพาไปดูทุกรายละเอียดของค่าใช้จ่ายที่จำเป็น พร้อมแชร์ 5 กลยุทธ์ ที่จะช่วยให้คุณวางแผนทำกำไรและคืนทุนได้อย่างรวดเร็ว
อยากเปิดร้านกาแฟต้องมีเงินเริ่มต้นลงทุนเท่าไหร่
งบประมาณในการเปิดร้านกาแฟนั้นจะมากน้อยแค่ไหน ส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับขนาดและคอนเซ็ปต์ของร้าน โดยสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน
ร้านคาเฟ่ขนาดเล็ก
สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจด้วยความเสี่ยงต่ำและมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ งบประมาณโดยประมาณ 50,000 – 300,000 บาท เพราะต้นทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่อุปกรณ์ชงกาแฟ ค่าเคาน์เตอร์สำเร็จรูป และวัตถุดิบเริ่มต้น ไม่มีค่ารีโนเวทหรือค่าตกแต่งขนาดใหญ่ จะมีแค่ค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น เช่น ขายในศูนย์อาหาร หรือพื้นที่หน้าอาคาร เป็นต้น
ร้านคาเฟ่ขนาดกลาง มีที่นั่ง
ร้านคาเฟ่ขนาดกลางส่วนใหญ่มักเน้นสร้างประสบการณ์ (Customer Experience) และบรรยากาศ ให้กับลูกค้า ซึ่งต้องแลกมาด้วยการลงทุนที่สูงประมาณ 1,000,000 – 2,500,000 บาท ขึ้นไป โดยต้นทุนหลักจะถูกใช้ไปกับงานก่อสร้าง และการวางระบบไฟฟ้า/ประปาที่ซับซ้อน รวมถึงการซื้ออุปกรณ์เชิงพาณิชย์ที่มีกำลังผลิตสูง

ตารางสรุปเปิดร้านคาเฟ่ต้องลงทุนเท่าไหร่
เพื่อให้เห็นภาพรวมงบประมาณในการลงทุนสำหรับเปิดร้านกาแฟ เราได้ทำตารางสรุปให้แล้ว โดยเป็นโมเดลจากคาเฟ่ขนาดเล็กและขนาดกลาง
| รายการค่าใช้จ่ายหลัก | ร้านคาเฟ่ขนาดเล็ก | ร้านคาเฟ่ขนาดกลาง |
| อุปกรณ์เครื่องมือ | 120,000 บาท | 450,000 บาท |
| ก่อสร้าง/รีโนเวท/ตกแต่ง | 80,000 บาท | 750,000 บาท |
| วัตถุดิบ/ค่าเช่าล่วงหน้า | 100,000 บาท | 300,000 บาท |
| รวมโดยประมาณ | 300,000 บาท | 1,500,000 บาท |
เปิดคาเฟ่ลงทุนเท่าไหร่ เงินเริ่มต้นอยู่ส่วนไหนบ้าง?
ส่วนนี้คือการแจกแจงรายละเอียดของตัวเลขที่คุณเห็นในตารางสรุปข้างต้น เพื่อให้ทราบว่าเงินลงทุน 1.5 ล้านบาท (สำหรับคาเฟ่ขนาดกลาง) ถูกจัดสรรไปใช้ในหมวดหมู่อะไรบ้าง
ต้นทุนคาเฟ่: งบงานก่อสร้าง รีโนเวท และงานระบบ
สำหรับในส่วนนี้คือส่วนที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้อง ก่อสร้างอาคารใหม่ หรือรีโนเวทตึกแถวเก่าที่มีสภาพทรุดโทรม
- งบก่อสร้าง/รีโนเวท/ตกแต่ง: สำหรับการเปิดคาเฟ่ขนาดกลาง งบประมาณการตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 14,000 – 24,000 บาทต่อตารางเมตร (สำหรับดีไซน์มาตรฐานถึงโมเดิร์น) หากร้านมีพื้นที่ 50 ตร.ม. งบประมาณส่วนนี้อาจเริ่มต้นที่ 700,000 บาท ขึ้นไป
- งานระบบไฟฟ้าและประปา: เป็นงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่เพียงพอและเสถียรสำหรับเครื่องชงกาแฟเชิงพาณิชย์ เพื่อป้องกันปัญหาไฟฟ้า Overload และการวางท่อน้ำดี/น้ำทิ้งที่ได้มาตรฐานในบริเวณเคาน์เตอร์บาร์
- งานโครงสร้าง/หลังคา: การลงทุนในคุณภาพวัสดุที่ลดปัญหาในระยะยาว เช่น ระบบหลังคาหรือฉนวนกันความร้อน เพื่อช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ และลดค่าไฟฟ้า (ต้นทุนคงที่รายเดือน) ในระยะยาว

การลงทุนในอุปกรณ์และเครื่องมือทำกาแฟ
อุปกรณ์คือหัวใจสำคัญของร้านกาแฟ เพราะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพเครื่องดื่ม การลงทุนในส่วนนี้จึงควรเน้นคุณภาพ โดยมีงบประมาณรวมอาจเริ่มต้นที่ 130,000 – 525,000 บาท ขึ้นไป
- เครื่องชงกาแฟ (Commercial Espresso Machine): มีช่วงราคาตั้งแต่ 80,000 บาท ไปจนถึง 350,000 บาท ขึ้นอยู่กับกำลังผลิตที่คุณต้องการต่อวัน
- เครื่องบดกาแฟ: ส่วนนี้สำคัญที่สุดสำหรับรสชาติกาแฟ ไม่ควรประหยัดมากเกินไป งบประมาณอยู่ที่ 15,000 – 50,000 บาท
- อุปกรณ์สำคัญอื่น ๆ: เครื่องทำน้ำแข็ง, ตู้เย็น/ตู้แช่แข็ง, เครื่องปั่น, ระบบ POS (Point of Sale) สำหรับจัดการการขาย และเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูง
ต้นทุนดำเนินงานเริ่มต้น: วัตถุดิบและค่าเช่า
ส่วนนี้คือเงินทุนหมุนเวียนที่เตรียมไว้สำหรับการเริ่มต้นกิจการ
- ค่าเช่าพื้นที่: ต้องเตรียมเงินสำหรับค่ามัดจำล่วงหน้า 1-3 เดือนของค่าเช่ารายเดือน
- วัตถุดิบเริ่มต้น: งบประมาณสำหรับสั่งซื้อเมล็ดกาแฟ นม น้ำเชื่อม และบรรจุภัณฑ์ในล็อตแรก (ประมาณ 10,000 – 50,000 บาท) ซึ่งส่วนนี้จะกลายเป็นต้นทุนผันแปรเมื่อร้านเริ่มดำเนินการ
งบการตลาดและค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย
- ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต: ค่าขออนุญาตประกอบกิจการร้านอาหาร หรือใบอนุญาตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ค่าออกแบบแบรนด์: ค่าออกแบบโลโก้ เมนู และภาพลักษณ์ร้าน
- งบการตลาดเปิดตัว: งบประมาณสำหรับโปรโมตในช่วงเปิดร้าน
แชร์ 5 เคล็ดลับ เปิดคาเฟ่อย่างไรให้คืนทุนไว ทำกำไรได้เร็วที่สุด
การคืนทุนที่รวดเร็วไม่ได้มาจากยอดขายที่สูงเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการจัดการต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) อย่างมีประสิทธิภาพ และการวางกลยุทธ์ดังนี้

1. วิเคราะห์จุดคุ้มทุนรายวัน
คุณต้องรู้ว่าร้านกาแฟของคุณต้องขายกี่แก้วต่อวันจึงจะอยู่รอดและเริ่มทำกำไร การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน (BEP) ช่วยให้คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน
- วิธีการคำนวณ: นำต้นทุนคงที่ต่อเดือน (ค่าเช่า, เงินเดือน, ค่าสาธารณูปโภค) มาหารด้วยกำไรขั้นต้นต่อแก้ว
- ตัวอย่าง: หากร้านมีต้นทุนคงที่รายเดือน 164,333 บาท และขายกาแฟแก้วละ 70 บาท คุณจะต้องขายได้ประมาณ 108-110 แก้วต่อวัน เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน นี่คือตัวเลขที่คุณและทีมงานต้องตั้งเป้าหมายทุกวัน
2. ลดต้นทุนคงที่ด้วยการลงทุนที่ยั่งยืน
กลยุทธ์นี้เป็นการมองต้นทุนการก่อสร้างหรือการรีโนเวทร้านกาแฟ เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อลดรายจ่ายระยะสั้น เช่น การติดตั้งระบบหลังคาหรือฉนวนกันความร้อน แม้จะจ่ายเงินสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้น แต่ดีกว่าการต้องปิดร้านเพื่อซ่อมแซมบ่อย ๆ แน่นอน
3. กลยุทธ์การตั้งราคาที่เหมาะสม
ควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ (Cost of Goods Sold: COGS) ให้คงที่ โดยพยายามให้อยู่ที่ประมาณ 30-35% ของราคาขาย หากวัตถุดิบแพงเกินไป คุณอาจต้องปรับราคาขายหรือเปลี่ยนสูตรตามไปด้วย
4. เพิ่มยอดขายต่อลูกค้า
เพิ่มกำไรต่อบิลให้สูงสุดด้วยการเสนอสินค้าที่ลูกค้าต้องการในขณะที่เขาซื้อ เช่น ขนม Homemade, เบเกอรี่อบใหม่, หรือ Signature Menu ที่มีความแปลกใหม่และสร้าง Margin ได้ดี
5. การจัดการความสูญเสีย
ใช้ระบบ POS ในการติดตาม Inventory ของวัตถุดิบอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการสั่งซื้อมากเกินไป หรือลดการสูญเสียจากการเน่าเสียของนม/วัตถุดิบที่ใช้ทำเบเกอรี่ รวมถึงฝึกอบรม Barista ให้ชงกาแฟด้วยมาตรฐานเดียวกัน เพื่อลดการสูญเสียจากการทำกาแฟผิดพลาด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
เปิดร้านกาแฟขนาดเล็กควรมีเงินสำรองลงทุนเท่าไหร่?
ควรเตรียมเงินทุนหมุนเวียนสำรองเพิ่มเติมจากงบเริ่มต้นอีกอย่างน้อย 30,000 – 90,000 บาท เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายคงที่ 3 เดือนแรก
ต้นทุนค่าก่อสร้าง รีโนเวท ตกแต่ง คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณรวม?
สำหรับคาเฟ่ขนาดกลางที่มีที่นั่ง ต้นทุนค่าก่อสร้าง รีโนเวท ตกแต่ง มักคิดเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุด โดยเฉลี่ยประมาณ 50-60% ของเงินลงทุนรวม (ไม่รวมเงินทุนหมุนเวียน)
สัดส่วนต้นทุนวัตถุดิบ (COGS) ต่อแก้วที่ดีควรอยู่ที่เท่าไหร่?
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ (COGS) ให้อยู่ที่ประมาณ 30% – 35% ของราคาขาย เพื่อรักษากำไรขั้นต้นไว้สำหรับบริหารจัดการต้นทุนคงที่ที่เหลือ
บทสรุป
การลงทุนในธุรกิจคาเฟ่ถือเป็นเรื่องยากสำหรับหลาย ๆ คน การได้รู้ตัวเลขว่าเปิดร้านกาแฟต้องใช้งบเท่าไหร่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะความท้าทายที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขเริ่มต้น แต่อยู่ที่การควบคุมไม่ให้งบประมาณบานปลาย โดยเฉพาะในงานก่อสร้างและรีโนเวทซึ่งมักเป็นต้นทุนที่เกินกว่าที่คาดไว้
Q-CHANG for Business เข้าใจดีถึงความกังวลนี้ เราพร้อมเป็นผู้ช่วยให้คุณมั่นใจในการลงทุน ด้วยการควบคุมงบประมาณอย่างเข้มงวด เพื่อให้คุณสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้แม่นยำ ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบบานปลายอีกต่อไป
Contact
LINE OA : @qchangforbusiness หรือคลิก https://lin.ee/RZPKb1u
Website : https://biz.q-chang.com
Tel : 02-821-6545