เมทัลชีท (Metal Sheet) ได้รับการยอมรับว่าเป็นวัสดุมุงหลังคาที่ตอบโจทย์ด้านความรวดเร็ว ในการติดตั้ง น้ำหนักเบา และมีราคาที่คุ้มค่าที่สุดในงานก่อสร้างยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเมทัลชีทจาก SCG ที่เหนือกว่าด้วยนวัตกรรมสารเคลือบกันสนิมประสิทธิภาพสูง พร้อมการรับประกันที่ยาวนาน ให้ความมั่นใจได้มากกว่าแผ่นเมทัลชีททั่วไปบทความนี้เราจึงได้รวบรวมสาระดี ๆ เกี่ยวกับการติดตั้งหลังคาเมทัลชีทจากประสบการณ์ตรง ของทีมช่างมืออาชีพมาฝาก โดยเจาะลึกทุกรายละเอียดทางเทคนิคตั้งแต่การคำนวณระยะแปที่ถูกต้อง ตามหลักวิศวกรรม จนถึงเคล็ดลับการป้องกันสนิมและการรั่วซึม เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการ มุงหลังคาเมทัลชีทให้ได้มาตรฐานสูงสุดและมั่นใจว่าหลังคาจะไม่ทรุด ไม่รั่ว ตลอดอายุการใช้งาน
การมุงหลังคาเมทัลชีทคืออะไร?
การมุงหลังคาเมทัลชีทคือการติดตั้งแผ่นเหล็กที่ถูกเคลือบด้วยสารป้องกันสนิม โดยมาตรฐานระดับสากลและมาตรฐาน SCG จะใช้การเคลือบอะลูมิเนียมซิงค์ (Aluminium-Zinc Alloy Coated Steel) ซึ่งมีส่วนผสมของอะลูมิเนียม 55% สังกะสี 43.5% และซิลิกอน 1.5% ช่วยให้ป้องกันสนิมได้ดีกว่าการเคลือบสังกะสีทั่วไปหลายเท่าตัว
นอกจากจุดเด่นด้านความทนทานแล้ว เมทัลชีทยังมีน้ำหนักเบา และสามารถสั่งผลิตความยาวได้เต็มแผ่นตามขนาดหลังคาจริง ทำให้ช่วยลดรอยต่อกลางแผ่น ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่น้ำจะรั่วซึมได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 90% ด้วยเหตุนี้จึงช่วยลดภาระน้ำหนักโครงสร้างเหล็ก และทำให้งานติดตั้งหลังคาเสร็จรวดเร็วประหยัดเวลากว่าการใช้กระเบื้อง
3 ปัจจัยสำคัญที่ต้องรู้ก่อนติดตั้งหลังคาเมทัลชีท
การติดตั้งหลังคาเมทัลชีทให้ได้มาตรฐานและใช้งานได้ยาวนานนั้น ไม่ได้มีแค่การยิงสกรูยึดแผ่นเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลักที่ส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงและการป้องกันการรั่วซึม ดังนี้
1. ความหนาของแผ่นและระยะแป
ปัญหาหลังคาเมทัลชีทแอ่นหรือที่ช่างเทคนิคมักเรียกว่าตกท้องช้างเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานและการระบายน้ำของหลังคา โดยมักมีสาเหตุมาจากการกำหนดระยะแป (เหล็กที่พาดขวางตามแนวลาดเอียงของหลังคาเพื่อรองรับแผ่นเมทัลชีท) ที่ห่างเกินไปหรือไม่สัมพันธ์กับ ความหนาของแผ่นเมทัลชีท (BMT – Base Metal Thickness)

ปัญหานี้มักพบได้บ่อยในงานที่ต้องการช่วงความกว้างมากเป็นพิเศษ เช่น หลังคาโรงจอดรถ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการจอดรถ 2 คันขึ้นไป ซึ่งต้องใช้ระยะเสาที่กว้างกว่าปกติ หากระยะแปที่ใช้ไม่ได้รับการคำนวณให้เหมาะสมกับความหนาของแผ่นหลังคา จะส่งผลให้เกิดการโก่งตัว หรือการแอ่นจนเกิดปัญหาตกท้องช้างขึ้น ซึ่งนำไปสู่การขังน้ำ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสนิมและน้ำรั่วในระยะยาวได้
ดังนั้น การออกแบบที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมจึงต้องพิจารณาความสัมพันธ์ของสองปัจจัยนี้เป็นหลัก ท่านสามารถอ้างอิงระยะแปหลังคาสูงสุดที่แนะนำ และพิจารณาผลกระทบ หากใช้ระยะแปที่เกินกว่าข้อกำหนดตามตารางด้านล่างนี้ได้เลย
| ความหนาของแผ่นเมทัลชีท (BMT) | ระยะแปหลังคาสูงสุดที่แนะนำ | ผลกระทบหากใช้ระยะแปเกินกว่าที่กำหนด |
| น้อยกว่า 0.30 มม. | ไม่เกิน 80 ซม. | หลังคาแอ่น เสี่ยงต่อการฉีกขาด/บุบได้ง่าย |
| 0.30 – 0.40 มม. | ไม่เกิน 1.00 ม. | เริ่มแอ่นเมื่อมีน้ำหนักกดทับ เสี่ยงเกิดเสียงดังจากลม |
| 0.40 – 0.47 มม. | ไม่เกิน 1.20 ม. | มีโอกาสแอ่น/ยวบ เมื่อถูกเหยียบซ่อมบำรุง |
| 0.47 มม. ขึ้นไป | สูงสุด 1.50 ม. | มีความแข็งแรงสูงแต่ไม่ควรเกิน 1.50 ม. เพราะจะทำให้จุดยึดรับแรงมากเกินไป |
เคล็ดลับ: หากใช้แผ่นที่มีความยาวมาก เช่น เกิน 10 เมตร ควรลดระยะแปให้ถี่ขึ้นเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างโดยรวม และป้องกันการสั่นสะเทือนจากแรงลม ดังนั้น การคำนวณระยะแปให้สัมพันธ์กับความหนาของแผ่นจึงเป็นปัจจัยหลักของงานวิศวกรรม
2. ความลาดเอียงของหลังคา
วิธีมุงหลังคาเมทัลชีทที่ดีต้องมีองศาความลาดเอียงที่เหมาะสม เพื่อให้น้ำฝนไหลระบายออกได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดปัญหาน้ำขัง หรือที่เรียกว่า “น้ำไหลย้อนกลับ” ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการรั่วซึมบริเวณรอยต่อแผ่น
- ลอนมาตรฐานทั่วไป: ควรมีความลาดเอียงไม่ต่ำกว่า 5 องศา หากหลังคามีความยาวมาก ควรเพิ่มองศาเป็น 7-10 องศา เพื่อประสิทธิภาพการระบายน้ำสูงสุด
- ลอนที่มีความสูงลอนมาก/ระบบคลิปล็อค: ควรรองรับความลาดเอียงตั้งแต่ 3 องศาขึ้นไป เนื่องจากระบบนี้ไม่มีการเจาะแผ่นหลังคา จึงลดความเสี่ยงการรั่วซึมจากสกรูได้

3. การเลือกใช้ระบบติดตั้งและสกรูยึด
เมทัลชีทมี 2 ระบบหลักในการติดตั้งหลังคา ได้แก่
- ระบบยิงสกรู: เป็นระบบที่นิยมใช้ทั่วไป โดยเจาะสกรูผ่านสันลอนหลังคาเพื่อยึดติดกับแป ข้อควรระวังคือต้องใช้สกรูยึดหลังคาเมทัลชีทที่ได้มาตรฐาน มีแหวนยางรองคุณภาพสูงที่ทำจาก EPDM เพื่ออุดรอยเจาะและป้องกันน้ำรั่วซึม
- ระบบคลิปล็อค: เป็นระบบที่ติดตั้งโดยการใช้คลิปล็อคซ่อนไว้ใต้ลอนหลังคา แล้วประกบแผ่นเข้าด้วยกัน วิธีนี้ไม่ต้องเจาะทะลุแผ่นจึงหมดปัญหาการรั่วซึมจากหัวสกรู นอกจากนี้ยังช่วยให้แผ่นสามารถยืดหดตัวตามการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ดี ลดการเกิดเสียงดัง และโอกาสเกิดรูสกรูหลวมในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ระบบคลิปล็อคมีข้อจำกัดในเรื่องของต้นทุน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและราคาวัสดุที่สูงกว่าระบบยิงสกรูแบบทั่วไป

วิธีมุงหลังคาเมทัลชีท ไม่ให้รั่ว ไม่แอ่น ใช้งานได้นาน ควรทำอย่างไร?
การติดตั้งเมทัลชีทให้ได้มาตรฐานนั้น มีรายละเอียดสำคัญที่ต้องทำตามหลายจุด เพื่อให้มั่นใจว่าหลังคาของคุณจะทนทาน ไม่ทรุด และไม่เกิดปัญหาจุกจิกในอนาคต นี่คือวิธีมุงหลังคาที่ช่างมืออาชีพส่วนใหญ่เลือกใช้
1. เตรียมโครงสร้าง
ก่อนเริ่มงานต้องตรวจสอบโครงสร้างหลังคาทั้งหมดว่าแข็งแรง ได้ฉาก และที่สำคัญคือระยะแป ต้องเหมาะสมกับความหนาของแผ่น เพื่อป้องกันปัญหาหลังคาแอ่นตัวในระยะยาว นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบว่าความลาดเอียงของหลังคาเป็นไปตามที่กำหนด เพื่อให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพสูงสุด
2. การวางแนวแผ่นและการยึดสกรูที่แม่นยำ
ตีแนวฉากและทิศทางมุง: ตีแนวฉากเพื่อวางแผ่นแรกให้ตรงที่สุด และเริ่มมุงจากด้านที่ตรงข้ามกับทิศทางลมประจำปีเพื่อให้รอยซ้อนทับถูกลมช่วยกดทับไว้
ตำแหน่งยึดสกรู:
- เมื่อยึดแผ่นเข้ากับแป (โครงสร้างหลัก) ให้เจาะสกรูที่ท้องลอน (ส่วนเว้า) เพื่อให้ยึดได้แน่นหนา
- เมื่อยึดแผ่นต่อแผ่น (รอยซ้อนทับ) ให้เจาะสกรูที่สันลอน (ส่วนนูน) เพื่อป้องกันน้ำขังที่หัวสกรู
3. ควบคุมความตึงสกรูและการทำความสะอาดหน้างาน
การป้องกันการรั่วซึมระยะยาวและปัญหาโครงสร้างขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้ ห้ามขันสกรูแน่นเกินไปเด็ดขาด จนแหวนยางบี้แตก หรือทำให้แผ่นยุบ ให้ขันเพียงแค่รู้สึกว่าแหวนยางแนบสนิทกับแผ่นก็พอ หากขันแน่นเกินไปจะทำให้เกิดช่องว่างที่น้ำซึมผ่านได้ แต่ในทางกลับกัน หากขันสกรูหลวมเกินไป ก็จะทำให้น้ำสามารถซึมเข้าผ่านใต้แหวนรองได้ง่าย และอาจทำให้สกรูคลายตัวหลุดในอนาคต เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนหรือการยืดหดตัวของแผ่นหลังคา
4. งานเก็บรอยต่อและการติดตั้งครอบที่สมบูรณ์
ในการติดตั้งครอบหลังคาหรืออุดรอยต่อเข้ากับผนังต้องใช้ซิลิโคนแบบเป็นกลางเท่านั้น ห้ามใช้ซิลิโคนที่มีความเป็นกรดโดยเด็ดขาด เพราะจะกัดกินเนื้อเหล็ก และสุดท้ายต้องติดตั้งวัสดุอุดร่อง ให้แนบสนิทที่บริเวณเชิงชายและสันหลังคา เพื่อป้องกันลมยกตัวใต้หลังคาและป้องกันสัตว์เล็กเข้าทำรัง
ข้อควรระวังในการติดตั้งหลังคาเมทัลชีท
เมทัลชีทถือเป็นหลังคาที่มีโอกาสรั่วซึมน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม เพื่อให้หลังคาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทนทาน ควรระวังและตรวจสอบการติดตั้งตามขั้นตอนต่อไปนี้

- ทำความสะอาดเศษเหล็กทันที: หลังจากการเจาะหรือตัดแผ่น ต้องกวาดเศษโลหะ (Swarf) ออกจากหลังคาทันที เพราะเศษเหล่านี้จะเกิดสนิมได้อย่างรวดเร็วเมื่อโดนความชื้น และจะลามไปกัดกินเนื้อแผ่นหลังคาหลักจนทะลุได้
- ตรวจสอบองศาหลังคา: วิธีติดตั้งแบบลอนมาตรฐานควรมีความลาดเอียงอย่างน้อย 5 องศา เพื่อป้องกันปัญหาน้ำไหลย้อน
- เดินบนท้องลอนเท่านั้น: กำชับให้ช่างเดินเฉพาะบนส่วนท้องลอนที่อยู่เหนือแนวแป เพื่อป้องกันแผ่นบุบเสียหายซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขังน้ำ
- เลือกทีมช่างที่มีมาตรฐาน: ปัญหาเรื่องสนิมและการรั่วซึมมักเกิดจากความมักง่ายเล็กน้อยในขั้นตอนติดตั้ง การเลือกทีมช่างที่มีอุปกรณ์ครบมือและเข้าใจคุณสมบัติของวัสดุ เช่น การไม่ใช้เครื่องเจียรตัดแผ่น เป็นต้น
การดูแลรักษาหลังคาเมทัลชีทเพื่อยืดอายุการใช้งาน
แม้การมุงหลังคาเมทัลชีทจะใช้งานได้ยาวนาน แต่เจ้าของบ้านก็ต้องบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดด้วยเช่นกัน เพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการซ่อมแซมที่เยอะขึ้นในอนาคต โดยเคล็ดลับในการดูแลรักษาหลังคาเมทัลชีทให้ทนทาน มีดังนี้

1. ล้างทำความสะอาดตามกำหนด
ควรทำความสะอาดหลังคาอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะหลังฤดูฝน เพื่อช่วยกำจัดฝุ่นละออง คราบสกปรก และเศษใบไม้ที่อาจไปสะสมความชื้นหรือก่อให้เกิดการกัดกร่อนเฉพาะจุด
2. ตรวจสอบสภาพแหวนยางสกรู
ควรตรวจสอบแหวนยางของสกรูทุก ๆ 3-5 ปี โดยเฉพาะบริเวณที่ได้รับแสงแดดจัด หากพบว่าแหวนยางเริ่มแห้งกรอบ แตกร้าว หรือฉีกขาด ควรรีบทำการเปลี่ยนสกรูใหม่ทันที เพื่อป้องกันน้ำซึมผ่านรูเจาะ
3. การจัดการกับคราบสนิมเล็กน้อย
หากพบรอยขีดข่วนเล็ก ๆ หรือคราบสนิมเฉพาะจุดที่ยังไม่ลุกลาม ควรรีบทำความสะอาดบริเวณนั้นด้วยกระดาษทรายเบอร์ละเอียด แล้วทาด้วยน้ำยาป้องกันสนิมเฉพาะจุด ที่เข้ากันได้กับเมทัลชีทก่อนที่สนิมจะขยายตัวกัดกินแผ่น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถ้าต้องตัดแผ่นเมทัลชีท ควรใช้เครื่องมืออะไร?
ควรใช้เครื่องมือที่ตัดโดยไม่สร้างความร้อน เช่น กรรไกรตัดเหล็กหรือเครื่องตัด Nibbler เพื่อรักษาชั้นสารเคลือบกันสนิมและป้องกันไม่ให้เกิดประกายไฟไปทำลายผิววัสดุ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หลังคาขึ้นสนิมเร็ว
ถ้าหลังคารั่วควรทำอย่างไรเป็นอันดับแรก?
ตรวจสอบจุดยึดสกรูทันที เพราะรอยรั่วส่วนใหญ่มักมาจากสกรูที่หลวม หรือแหวนยางที่เสื่อมสภาพ วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือใช้ซิลิโคนประเภทเป็นกลางอุดรอยรั่วรอบหัวสกรูชั่วคราว
การติดตั้งฉนวนกันความร้อนมีแบบไหนบ้าง?
มี 2 แบบหลักคือแบบติดสำเร็จมากับแผ่น (PE/PU) ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว กับแบบปูหน้างานบนแป ที่ต้องระวังการปูให้ตึงสนิทเพื่อไม่ให้เกิดความชื้นสะสมใต้แผ่น
บทสรุป
จะเห็นได้ว่า การติดตั้งหลังคาเมทัลชีทที่ถูกต้องไม่ได้มีเพียงเรื่องของวัสดุเกรดพรีเมียมที่มีสารเคลือบกันสนิมและ Warranty ที่ยาวนานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคนิคการติดตั้งที่ละเอียดอ่อน เช่น การเลือกใช้วิธีตัดแผ่นแบบเย็น (Cold Cut) และการกำหนดระยะแปที่แม่นยำ
ดังนั้น การดำเนินการติดตั้ง ซ่อมแซม หรือรีโนเวทหลังคาให้ได้มาตรฐานสูง จึงไม่ใช่แค่การเลือกวัสดุ แต่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการบริหารจัดการงานอย่างมืออาชีพ
หากคุณต้องการงานติดตั้งหลังคาเมทัลชีทที่สมบูรณ์ ได้มาตรฐาน ไร้ปัญหาการซ่อมแซมที่จุกจิกในอนาคต Q-CHANG for Business พร้อมเป็นพันธมิตรในการดูแลงานซ่อมหลังคาทุกประเภทแบบ One Stop Service โดยทีมช่างคุณภาพที่ผ่านมาตรฐานการฝึกอบรมเฉพาะทาง พร้อมรับประกันผลงานที่เชื่อถือได้ หมดกังวลเรื่องช่างทิ้งงาน เพราะเรามี Project Manager คอยดูแลการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงส่งมอบงานเรียบร้อย
Contact
LINE OA : @qchangforbusiness หรือคลิก https://lin.ee/RZPKb1u
Website : https://biz.q-chang.com
Tel : 02-821-6545