Q-CHANG for Business

Working Time: Mon - Fri 9:00 AM - 6:00 PM
Follow us:
ส่งอีเมล์

b2b.relations@q-chang.com

เบอร์โทรติดต่อ

063-624-4564

ผู้รับเหมาก่อสร้างคือใคร? รู้จักหน้าที่ บทบาท และประเภทที่ควรรู้

หน้าที่ของผู้รับเหมาก่อสร้าง
สารบัญ

ผู้รับเหมาก่อสร้างคือหนึ่งในบุคคลหรือหน่วยงานสำคัญที่ทำให้โครงการก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่างได้จริง ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ผู้รับเหมาเป็นฟันเฟืองสำคัญที่คอยบริหารจัดการและดำเนินงานให้เป็นไปตามแบบแปลน สเปก วัสดุ และเวลาที่เจ้าของโครงการต้องการ บทความนี้จะพาไปรู้จักผู้รับเหมาก่อสร้างตั้งแต่ประเภท รูปแบบ ไปจนถึงหน้าที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในไซต์งานอย่างละเอียด


ผู้รับเหมาก่อสร้างคือใคร

ผู้รับเหมาก่อสร้างคือใคร

“ผู้รับเหมาก่อสร้าง” (Contractor) คือบุคคลหรือบริษัทที่ได้รับว่าจ้างให้ดำเนินงานก่อสร้างตามแผนที่ผู้ออกแบบวางไว้ ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้าง งานสถาปัตย์ งานระบบไฟฟ้า งานระบบประปา หรือแม้แต่การตกแต่งภายใน โดยผู้รับเหมาจะมีหน้าที่หลักในการจัดหาวัสดุ แรงงาน และเครื่องมือ เพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย

ประเภทของผู้รับเหมาก่อสร้าง

การเลือกผู้รับเหมาที่เหมาะสมกับลักษณะโครงการเป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้รับเหมาแต่ละประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดแตกต่างกัน

1. ผู้รับเหมาหลัก (Main Contractor)

ผู้รับเหมาก่อสร้างหลักคือผู้ที่รับผิดชอบงานก่อสร้างทั้งโครงการตามที่ระบุในสัญญา โดยดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ รวมถึงควบคุมงบประมาณ เวลาทำงาน และคุณภาพของงานทั้งหมด หน้าที่หลักของผู้รับเหมาประเภทนี้คือการว่าจ้างผู้รับเหมาช่วงที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมประสานงานกับเจ้าของโครงการ วิศวกร และสถาปนิกเพื่อให้งานดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับโครงการขนาดกลางถึงใหญ่ เช่น อาคารสำนักงาน คอนโด หรือโรงงานอุตสาหกรรม

2. ผู้รับเหมาช่วง (Subcontractor)

ผู้รับเหมาช่วงทำหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะบางส่วนของงานที่ได้รับมอบหมายจากผู้รับเหมาหลัก เช่น งานระบบไฟฟ้า งานประปา งานโครงสร้างเหล็ก หรืองานตกแต่งภายใน โดยมีการแบ่งประเภทชัดเจน เช่น ผู้รับเหมางานสถาปัตย์ ผู้รับเหมางานระบบสุขาภิบาล ฯลฯ ผู้รับเหมาช่วงมักเป็นผู้ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านและสามารถส่งมอบงานตามมาตรฐานได้ในกรอบเวลาที่กำหนด

3. ผู้รับเหมางานเฉพาะทาง (Specialist Contractor)

ผู้รับเหมาเฉพาะทางคือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในด้านที่ต้องใช้เทคโนโลยีหรือทักษะเฉพาะ เช่น ระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ ระบบฐานรากลึก หรือระบบป้องกันอัคคีภัย โดยทั่วไปจะเข้ามาทำงานเฉพาะจุดตามความจำเป็นในโครงการที่มีความซับซ้อน เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้มาตรฐานเฉพาะหรือเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงแรม หรือโรงงานระบบอัตโนมัติ

ประเภทของผู้รับเหมาก่อสร้าง

4. ผู้รับเหมารายย่อย (Small Contractor / Local Contractor)

ผู้รับเหมารายย่อยมักเป็นทีมงานขนาดเล็กที่เน้นงานก่อสร้างหรือปรับปรุงในระดับครัวเรือน เช่น ต่อเติมบ้าน รีโนเวทบ้าน หรือสร้างบ้านเดี่ยวขนาดเล็ก จุดเด่นคือมีความคล่องตัว ค่าใช้จ่ายไม่สูง และบางครั้งเจ้าของบ้านสามารถควบคุมหรือมีส่วนร่วมในงานได้ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ผู้รับเหมาประเภทนี้มักไม่มีทีมวิศวกรหรือสถาปนิกประจำ จึงควรตรวจสอบคุณภาพและแผนงานให้รอบคอบก่อนจ้างงาน

5. ผู้รับเหมาระบบ Turnkey

ผู้รับเหมาระบบ Turnkey คือผู้ที่รับผิดชอบโครงการแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ จัดหาวัสดุ ก่อสร้าง ไปจนถึงการส่งมอบอาคารที่พร้อมใช้งานจริง โดยเจ้าของโครงการไม่ต้องจัดการหลายฝ่าย ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากและความเสี่ยงด้านเวลาและงบประมาณ เหมาะสำหรับโครงการพาณิชย์ โรงงาน หรือผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารงานก่อสร้าง

6. ผู้รับเหมาก่อสร้างภาครัฐ (Government Contractor)

ผู้รับเหมาภาครัฐเป็นผู้ที่รับเหมางานจากหน่วยงานของรัฐบาล เช่น ถนน สะพาน โรงเรียน หรือโรงพยาบาล โดยการรับงานจะต้องผ่านขั้นตอนการประมูลหรือการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบราชการ ซึ่งผู้รับเหมาจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่หน่วยงานกำหนด เช่น ทุนจดทะเบียน ประสบการณ์ หรือใบอนุญาต เหมาะสำหรับบริษัทที่มีความพร้อมด้านบุคลากรและระบบการบริหารจัดการที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของรัฐ

หน้าที่ของผู้รับเหมาในไซต์งานก่อสร้าง

หน้าที่ของผู้รับเหมาก่อสร้างมีหลายมิติ ตั้งแต่การเตรียมงานเอกสารจนถึงการส่งมอบงานสำเร็จ ซึ่งสามารถสรุปเป็นหมวดหมู่หลักได้ดังนี้

1. ควบคุมงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบและสเปก

หน้าที่หลักของผู้รับเหมาในไซต์งานก่อสร้างคือการควบคุมให้งานก่อสร้างเป็นไปตามแบบแปลนทางสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และข้อกำหนดที่เจ้าของโครงการหรือผู้ออกแบบวางไว้ ผู้รับเหมาจะต้องศึกษารายละเอียดของแบบและเอกสารประกอบทั้งหมด เพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนด หากพบข้อผิดพลาดหรือจุดไม่ชัดเจนในแบบ จะต้องประสานกับวิศวกรหรือสถาปนิกทันที

หน้าที่ของผู้รับเหมาก่อสร้าง

2. วางแผนและจัดตารางการทำงานในหน้างาน

ผู้รับเหมามีหน้าที่วางแผนตารางการทำงานทั้งในระดับรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน เพื่อให้สามารถส่งมอบงานได้ตรงตามเวลาที่ระบุในสัญญา โดยต้องจัดลำดับความสำคัญของงานแต่ละส่วน เช่น งานฐานราก งานโครงสร้าง งานระบบ งานสถาปัตย์ และงานตกแต่งภายใน รวมถึงต้องประสานกับผู้รับเหมาช่วงแต่ละทีมให้ลงงานได้อย่างต่อเนื่องและไม่ทับซ้อนกัน

3. ควบคุมคุณภาพของวัสดุและงานก่อสร้าง

อีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของผู้รับเหมาคือการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของวัสดุก่อสร้างที่นำมาใช้ในไซต์งาน โดยต้องตรวจรับวัสดุให้ตรงตามรายการวัสดุที่ระบุในสัญญาหรือ BOQ (Bill of Quantities) หากพบว่าวัสดุไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ตรงสเปก จะต้องรายงานและหาทางเปลี่ยนโดยเร็ว

4. บริหารจัดการต้นทุนและควบคุมงบประมาณ

ผู้รับเหมามีหน้าที่จัดการต้นทุนการก่อสร้างให้เป็นไปตามงบประมาณที่ตกลงไว้กับเจ้าของโครงการ ทั้งในเรื่องค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าเครื่องจักร และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในไซต์งาน โดยจะต้องมีการวางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหางบประมาณบานปลาย และหากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จะต้องมีการแจ้งขออนุมัติและจัดทำเอกสารประกอบตามกระบวนการ

5. ประสานงานกับฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ผู้รับเหมาทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางของการประสานงานในไซต์งาน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของโครงการ วิศวกร สถาปนิก ผู้ควบคุมงาน ผู้ตรวจสอบ และผู้รับเหมาช่วง การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงประเด็นจะช่วยลดความผิดพลาดและปัญหาที่อาจเกิดจากการสื่อสารคลาดเคลื่อน ทั้งยังช่วยให้การดำเนินงานในไซต์งานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

ผู้รับเหมาต้องประสานงานกับฝ่ายต่าง ๆ

6. ตรวจสอบความปลอดภัยในไซต์งาน

ความปลอดภัยในหน้างานเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ผู้รับเหมาต้องให้ความสำคัญอย่างสูง ต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เช่น หมวกนิรภัย รองเท้าเซฟตี้ และอุปกรณ์กันตก พร้อมกำหนดพื้นที่อันตรายให้ชัดเจน ติดตั้งป้ายเตือน และจัดการฝึกอบรมความปลอดภัยให้กับทีมงานอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างชั่วคราว เช่น นั่งร้าน ทางขึ้นลง และระบบไฟฟ้าชั่วคราวในหน้างานด้วย

7. บันทึกความคืบหน้าและรายงานประจำวัน

ผู้รับเหมาจะต้องจัดทำบันทึกความคืบหน้าของงาน (Daily Report) อย่างต่อเนื่อง เพื่อรายงานสถานการณ์ในหน้างาน เช่น ปริมาณงานที่ทำเสร็จ ปัญหาที่พบ สภาพอากาศ การเข้าออกของแรงงาน หรือเครื่องจักร การจัดทำรายงานเหล่านี้เป็นประโยชน์ในการติดตามโครงการ ช่วยให้เจ้าของงานหรือที่ปรึกษาโครงการสามารถตรวจสอบความก้าวหน้า และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ

8. ตรวจรับงานและแก้ไขข้อบกพร่อง

เมื่อดำเนินงานเสร็จตามแผนในแต่ละงวดงาน ผู้รับเหมาจะต้องเข้ารับการตรวจงานร่วมกับเจ้าของโครงการหรือที่ปรึกษา หากพบข้อบกพร่อง เช่น งานไม่เรียบร้อย รั่วซึม หรือสเปกไม่ตรง จะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้สามารถผ่านการตรวจรับงานได้โดยไม่มีปัญหา และเข้าสู่ขั้นตอนการส่งมอบโครงการอย่างสมบูรณ์

ผู้รับเหมาต้องตรวจงานก่อนส่งมอบ

9. ส่งมอบงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง

หน้าที่สุดท้ายของผู้รับเหมาในโครงการ คือการส่งมอบงานและเอกสารประกอบให้แก่เจ้าของโครงการอย่างครบถ้วน เช่น แปลนก่อสร้างที่อัปเดตตามหน้างาน (As-built drawing) คู่มือการใช้งานอุปกรณ์ รายการวัสดุที่ใช้จริง และใบรับประกันต่าง ๆ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการดูแลรักษาในระยะยาว และใช้ประกอบการตรวจสอบคุณภาพในอนาคต

สรุป

ผู้รับเหมาก่อสร้างมีบทบาทสำคัญในทุกโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน ควบคุมหน้างาน หรือส่งมอบงานให้เจ้าของโครงการอย่างเรียบร้อย การเข้าใจหน้าที่และประเภทของผู้รับเหมาอย่างชัดเจน จึงช่วยให้เจ้าของโครงการสามารถเลือกทีมงานที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างดำเนินงาน

หากกำลังมองหาผู้รับเหมาที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือโครงการอาคารสำนักงาน Q-CHANG for Business พร้อมดูแลแบบครบวงจรในบทบาท Project Owner มีระบบจัดการชัดเจน พร้อมทีมงานที่ได้รับการรับรองความรู้ความสามารถจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มั่นใจได้ว่างานทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยที่วางใจได้

Contact

LINE OA : @qchangforbusiness หรือคลิก https://lin.ee/RZPKb1u 

Website : https://biz.q-chang.com 

Tel : 02-821-6545

Related Posts

กำลังวางแผนสร้างบ้านอยู่ใช่ไหม? อย่าเพิ่งเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาจนกว่าจะได้อ่านเช็กลิสต์นี้ รวมเทคนิควิธีเลือกผู้รับเหมาสร้างบ้านที่ช่วยให้ได้ทีมงานมืออาชีพ ไม่ทิ้งงาน ส่งมอบตรงเวลา!
การรีโนเวทตึกแถวไม่ใช่แค่การปรับปรุงให้ดูใหม่ แต่คือการเปลี่ยนพื้นที่ให้ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น มาดูเรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนเริ่มรีโนเวท เพื่อให้งานออกมาสวย ใช้งานได้จริง และคุ้มค่าทุกขั้นตอน
หากกำลังมองหาไอเดียร้านอาหารฝรั่งที่ตอบโจทย์ทั้งรสชาติและบรรยากาศสวย ๆ สำหรับถ่ายรูป บทความนี้รวมไว้ให้แล้ว ทั้งสวย ทั้งเก๋ ทั้งมีเสน่ห์ เหมาะกับสายรีวิวทุกรูปแบบแน่นอน!